ศัลยกรรมเสริมหน้าอก

Breast Surgery

เสริมหน้าอก ไม่เป็นบล็อค ออกแบบข้างต่อข้าง แผลสวย ไร้กังวล ศัลยกรรมเสริมหน้าอก คือศัลยกรรมสำหรับคนที่มีปัญหาไม่พอใจในขนาดหรือรูปทรงของหน้าอก และต้องการเสริมให้มี ขนาดใหญ่ขึ้น โดยแพทย์จะทำการใส่ซิลิโคน เข้าไปบริเวณภายในหน้าอก พร้อมจัดรูปทรงออกมาให้เป็นทรงหน้าอกดูเหมือนติดมากับตัวแต่เกิด โดยวัสดุที่แพทย์จะใช้ในการเสริมหน้าอกนั้นจะเป็นซิลิโคนที่มีหลากหลายยี่ห้อ

ซิลิโคนแต่ละทรง ให้ผลลัพธ์การเสริมหน้าอกที่แตกต่างกัน

ซิลิโคนหน้าอกทรงกลม

ซิลิโคนทรงกลมจะช่วยให้หน้าอกดูอิ่มแน่นตั้งแต่เนินอกลงไปถึงเต้านมส่วนล่าง เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกอยู่แล้ว แต่ต้องการทำหน้าอกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เน้นให้เนินอกดูเต็มขึ้น และมีรูปทรงที่ชัดเจนขึ้น

ซิลิโคนหน้าอกทรงหยดน้ำ

ซิลิโคนทรงนี้มีลักษณะคล้ายเต้านมของมนุษย์ขณะยืนอยู่ มีความหย่อนคล้อยเล็กน้อยตามแรงโน้มถ่วง ทำให้หน้าอกดูสวยไม่หลอกมากกว่าทรงกลม เหมาะกับผู้ที่เนื้อหน้าอกน้อย แต่อยากให้หน้าอกดูอวบอิ่ม และไม่ต้องการให้เห็นรูปทรงซิลิโคนชัดเจนเกินไป รวมถึงคนที่หน้าอกหย่อนคล้อยเล็กน้อย หรือปานกลางจะช่วยให้เต้านมดูเชิดขึ้น พุ่งขึ้น

มีซิลิโคนผิวสัมผัส 3 แบบ

– ซิลิโคนผิวเรียบ (Smooth Silicone Implant)

– ซิลิโคนผิวทราย (Textured Silicone Implant)

– ซิลิโคนผิวกึ่งเรียบกึ่งทราย (Nano Texture)

ซิลิโคนเป็นดั่งอวัยวะใหม่ในร่างกายที่จะติดตัวเราไปตลอด ดังนั้น นอกเหนือจากทรงของซิลิโคนที่จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันแล้ว การเสริมหน้าอกต้องอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยอีกด้วย การเลือกยี่ห้อของซิลิโคนจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน

เทคนิคการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอก

การผ่าตัดสำหรับการใส่ซิลิโคนนั้น เริ่มจากการที่แพทย์จะทำการเปิดแผล จากนั้นจึงนำซิลิโคนยัดผ่านแผลเข้าไป โดยแต่ละเทคนิคจะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งแพทย์จะทำการเลือกเทคนิคให้ตรงกับความต้องการของคุณมากสุดดังนี้

1. ผ่าตัดสอดกล้องบริเวณใต้รักแร้

วิธีนี้จะใช้กล้อง Endoscope ช่วยในการส่องพื้นที่ผ่าตัด ลดอาการบอบช้ำของเนื้อเยื่อ แผลมีขนาดเล็กลง ไม่ค่อยเจ็บ ฟื้นตัวไว สามารถซ่อนรอยแผลไว้ตรงเส้นรอยพับรักแร้ แต่มีข้อจำกัดเรื่องขนาดซิลิโคนที่จะใส่

2. ผ่าตัดใส่กรวยบริเวณใต้ราวนม แผลใต้ราวนม

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมใช้ เพราะดูแลง่าย โดยแผลจะถูกซ่อนไว้ตรงรอยพับตรงหน้าอกพอดี สามารถใส่ซิลิโคนขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย

3. ผ่าตัดบริเวณปานนม

ซ่อนรอยแผลเป็นได้ดี อาจเจ็บบ้างแต่ไม่มาก ดูแลแผลง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปานนมค่อนข้างใหญ่ ผิวหนังหนา ยืดหยุ่นได้ดี แต่ก็มีโอกาสสูญเสียความรู้สึกในบริเวณหัวนมได้ในช่วงแรก และมีรายงานว่าอาจเกิดพังผืดรัดเต้านมสูงขึ้นเล็กน้อย

ในส่วนของขั้นตอนการใส่ซิลิโคน

แพทย์จะมีเทคนิคในการใส่ซิลิโคนโดยขึ้นอยู่กับพื้นฐานเดิมหน้าอกของคนไข้ และผลลัพธ์ที่คนไข้ต้องการ

 วางซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อ

เหมาะสำหรับคนที่มีเนื้อหน้าอกค่อนข้างมาก เพียงพอที่จะยึดเกาะกับซิลิโคน กันไม่ให้ถุงเต้านมเทียมไปชนเข้ากับผิวหนัง หรือหน้าอกได้ โดยซิลิโคนเสริมหน้าอกจะอยู่บนแผ่นกล้ามเนื้อของเราทั้งหมด

 วางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ

เหมาะมากสำหรับผู้ที่มีเนื้ออยู่บ้างเพียงเล็กน้อย เพราะการเสริมใต้กล้ามเนื้อ จะมีประสิทธิภาพกว่าการวางซิลิโคนเสริมหน้าอกบนกล้ามเนื้อ โดยการวางตำแหน่งนี้จะช่วยให้เต้านมได้รูปมากขึ้น ทำให้ผลลัพธ์ออกมาได้ในรูปทรงหน้าอกที่ดูธรรมดา ไม่โป๊ะ และป้องกันการเห็นขอบซิลิโคน ลดโอกาสการเกิดพังผืด ซิลิโคนลอยได้ดี

รอยแผลการศัลยกรรมหน้าอก

รอยแผลการศัลยกรรมหน้าอกที่มีความประณีต เย็บแผลทุกชั้นด้วยความตั้งใจ เพื่อให้แผลออกมาสวยงาม พิถีพิถันด้วย ความชำนาญของศัลยแพทย์

– เย็บไหมละลายพิเศษ

– แผลความยาว 3-4 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับซีซีของซิลิโคนที่ใส่

– เย็บผิวหนังด้านในอย่างพิถีพิถันเพื่อไม่มีปมไหมภายนอก

หากคุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้

เนินหน้าอกไม่เต็ม ต้องการให้หน้าอกอวบอิ่ม

หน้าอกเล็กตั้งแต่เกิดหรือเคสสาวสองที่อกแบน

เนินหน้าอกหาย เพราะให้นมลูก

เคสคนที่มีอายุแล้ว หน้าอกมีความหย่อนคล้อย

เคสที่มีหน้าอกแล้ว แต่ยังแต่งตัวไม่สวยงาม 

แล้วอยากรู้ไหม ซิลิโคนทรงไหนที่เหมาะสำหรับคุณ 

ทำไมต้องที่ CHARN CLINIC

1. เรามีศัลยแพทย์ที่ชำนาญ ใส่ใจทุกรายละเอียด ได้รับการรับรองโดยแพทยสภา
2. เรามีห้องที่ใช้ในการผ่าตัด และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน
3. เรามีเครื่อง CT Scan เพื่อให้เห็นภาพโครงสร้างใบหน้าที่แท้จริงของคุณด้วยภาพ 3 มิติ
4. เรามีเทคโนโลยี ที่ให้คุณเห็นภาพผลลัพธ์สุดท้ายได้ก่อนการเข้าทำศัลยกรรมจริง
5. เรามีวิสัญญีแพทย์ ที่ทำให้คุณหลับระหว่างผ่าตัด
6. เรามีมาตรฐานการให้บริการระดับ Exclusive  ให้คุณได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุด

PROCEDURE

ระยะเวลาที่ใช้ผ่าตัด

✅  2-3 ชั่วโมง

การให้ยาชา

✅  ดมยาสลบ

การค้างคืน

✅  1 คืน

ระยะพักฟื้น

✅  สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ 5-7 วันหลังการผ่าตัด

อาการบวม

✅  1-2 สัปดาห์

การการติดตามผล

✅  1 สัปดาห์ (ตัดไหม) / 1 เดือน / 3 เดือน / 6 เดือน

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

ควรลางานประมาณ 5 วัน

งดการดื่มน้ำและรับประทานอาหาร 8 ชั่วโมง ก่อนการผ่าตัด

งดทานวิตามินเสริมทุกชนิด 2 สัปดาห์ ก่อนและหลังการผ่าตัด

งดสูบบุหรี่ 1 เดือน ก่อนและหลังการผ่าตัด

งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์ ก่อนและหลังการผ่าตัด

ควรสระผมมาก่อนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากในช่วงแรกหลังการผ่าตัดอาจสระผมไม่สะดวก

ควรงดแต่งหน้าในวันที่เข้ารับการผ่าตัด หรือไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่ทำความสะอาดยาก

ควรมีผู้ติดตามคอยดูแลในวันผ่าตัด ไม่ควรขับขี่ยานพาหนะเอง

หากมีโรคประจำตัว, ใช้ยาโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนนัดทำการผ่าตัด

 

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

จะมีอาการชาบริเวณลำคอ ซึ่งอาการเหล่านี้จะเริ่มหายไปเองประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังการผ่าตัด

ดูแลแผลผ่าตัดให้แห้งอยู่เสมอ ห้ามแผลเปียกน้ำจนกว่าจะตัดไหม

นอนหมอนสูง และประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก

เช็ดทำความสะอาดบาดแผลด้วยสำลีชุบน้ำเกลือ และใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง

งดการออกกำลังกายหนัก หรือการเคลื่อนไหวที่กระทบกระเทือนแผล 1 เดือนหลังการผ่าตัด

งดการมีเพศสัมพันธ์ 1 เดือนหลังการผ่าตัด

หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนเป็นเวลา 2 เดือนหลังการผ่าตัด

สามารถกลับไปแต่งหน้าตามปกติได้ หลังการตัดไหม 24 ชั่วโมง