ศัลยกรรมแก้จมูก
Revision Rhinoplasty
เมื่อตัดสินใจทำศัลยกรรมจมูกแล้ว ไม่พอใจในผลลัพธ์เกิดปัญหาจมูกอักเสบหลังการเสริม ทรงจมูกผิดรูป จมูกเบี้ยวเอียง เกิดการอักเสบ ภาวะแทรกซ้อน ปลายจมูกเริ่มบาง เสี่ยงต่อการทะลุ CHARN CLINIC ทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลและแก้ไขให้คุณ รวมไปถึงการแก้ปัญหาโครงสร้างจมูกให้คุณได้ในครั้งเดียว จบทุกปัญหา ได้รูปทรงจมูกที่เข้ากับใบหน้า ให้คุณดูดีขึ้นอย่างคาดไม่ถึง
การแก้จมูก มี2เทคนิค ด้วยกันหลักๆ คือ วิธีแรก คือการเสริมจมูกแบบปิด Close Rhinoplasty และวิธีที่สอง คือการเสริมจมูกแบบเปิด Open Rhinoplasty สำหรับผู้ที่แก้จมูกด้วยวิธีแรกเหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานจมูกดีอยู่แล้ว ตั้งแต่สั่นจมูกไปจนถึงปลายจมูกมีความเรียวเล็กอยู่แล้ว ส่วนการแก้จมูกแบบเทคนิคที่สอง เหมาะกับผู้ที่มีจมูกสั้น จมูกเบี้ยว จมูกแบน จมูกมีฮัมพ์ รวมถึงผู้ที่รูจมูกเชิด ปลายจมูกสั้น จมูกหมู จมูกชมพู่ ต้องการแก้ไขทรงจมูกให้ยาวขึ้น พุ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งการทำจมูกหยดน้ำที่ดูเป็นธรรมชาติ
3 สาเหตุหลักที่ทำให้ต้องแก้จมูกหลายครั้ง เกิดจาก?
1. เสริมมาแล้วจมูกเบี้ยวเอียง สาเหตุที่จมูกมีความเบี้ยวเอียงหลังจากเสริมมาแล้วนั้น อาจะเป็นเพราะว่า แพทย์ทำการตกแต่งซิลิโคนยาวเกินพอดีกับรูปจมูกของคนไข้ ทำให้ซิลิโคนเกิดการเอียง ตึง จมูกดูย้อย และในบางรายอาจถึงขั้นจมูกทะลุได้ ฐานจมูกเดิมมีลักษณะนูน คด เอียง หรือมีบริเวณแกนทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน
การวางซิลิโคนผิดตำแหน่ง โดยไม่ได้ทำการวางซิลิโคนไว้ใต้เยื่อหุ้มกระดูก ทำให้เกิดการเบี้ยวและเอียงได้ง่ายเกิดจากการกระแทก ชน หรือประสบอุบัติเหตุหลังจากการทำศัลยกรรม อาจจะเกิดจากโครงสร้างใบหน้าเดิมเอียงจากขากรรไกร เมื่อทำการเสริมจมูกไปแล้ว อาจทำให้มองแล้วจมูกดูเบี้ยว เอียง (ซึ่งในกรณีนี้จะต้องไปแก้ในส่วนของใบหน้ามากกว่าการเสริมจมูก จึงจะทำให้จมูกหายเบี้ยวได้)
2. แก้ความบานของจมูกและความกว้างของจมูก หากต้องการเปลี่ยนรูปทรงจมูกที่ปลายจมูกใหญ่ จมูกบาน ปีกจมูกกว้าง ให้สวยงามอย่างสมบูรณ์แบบนั้น จำเป็นต้องผ่าตัดแก้ไขปรับโครงสร้างจมูกแบบเทคนิค OPEN ศัลยแพทย์จะเห็นโครงสร้างภายในจมูกทั้งหมด ทำให้แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด สามารถเพิ่มความยาวให้จมูกได้ ด้วยการใช้กระดูกอ่อนในจมูก(Septum) หลังใบหู หรือซี่โครง มาเติมช่วงปลายจมูก เพื่อยืดความยาวและความโด่งให้ปลายจมูก ในบางเคสอาจจะต้องตัดปีกจมูกร่วมด้วยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
3. แก้จมูกสั้น เนื้อน้อย ปลายจมูกเชิด สาเหตุที่เนื้อจมูกน้อย เกิดจากกรรมพันธุ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่พบได้ทั่วไป ขึ้นอยู่กับโครงหน้าเดิมเนื้อจมูกเดิมของคนไข้ ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งคือการเคยฉีดฟิลเลอร์เติมเนื้อจมูก หรือเคยเสริมจมูกมาแล้วซิลิโคนเกิดดึงรัดเนื้อเดิม กรณีแบบนี้ศัลยแพทย์จะแนะนำให้แก้แบบเทคนิค OPEN หรือการยืดผนังกั้นจมูก โดยนำกระดูกอ่อนในจมูก(Septum) หลังใบหู หรือซี่โครง เพื่อทำการยก ยืด โครงสร้างจมูกเดิมให้มีความยาวมากขึ้น ทำให้จมูกดูเรียวยาว โด่งพุ่งขึ้นจากเดิม โดยไม่รั้งผิวปลายจมูก ลดความเสี่ยงจมูกทะลุเพราะเนื้อจมูกน้อย
1. ปลายจมูกใสสะท้อนแสงกว่าส่วนอื่นๆ
จุดเริ่มต้นของสัญญาณจมูกใกล้ทะลุเพราะการที่เป็นแบบนี้แสดงว่าเนื้อช่วงปลายจมูกของคุณได้บางลงมากๆ แล้วเสี่ยงต่อการที่ซิลิโคนเสริมจมูกจะทะลุพ้นเนื้อของคุณออกมา
2. จมูกเริ่มมีร่องหรือรอยบุ๋ม
อาจเกิดจากการที่ตัวซิลิโคนเสริมจมูกได้ไปยึดติดกับผิวหนังชั้นบนมากเกินไป ทำให้เห็นขอบซิลิโคนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น จนผิวหนังมีลักษณะเป็นร่อง หรือรอยบุ๋ม หรือบางกรณี อาจเกิดจากการที่มีผังพืดที่หนามากบริเวณซิลิโคน ผิวหนังจึงเกิดความตะปุ่มตะป่ำ และอาจเกิดอาการอักเสบขึ้นที่เนื้อจมูกได้
3. เนื้อบริเวณปลายจมูกเปลี่ยนสีแดงหรือคล้ำขึ้น
เนื่องจากผิวหนังบริเวณปลายจมูก อาจมีความบางขึ้น เลยทำให้สีผิวบริเวณนั้นเกิดความแตกต่างจากบริเวณอื่นมากเกินไป
4. รูปร่างซิลิโคนมีการเปลี่ยนแปลง เบี้ยวผิดรูปทรง
ซิลิโคนเสริมจมูกมีการเปลี่ยนรูปไป หรือบางครั้งอาจมีการเปลี่ยนทิศทางการวางที่แปลกไป เช่น ทรงจมูกเริ่มเบี้ยว ทรงจมูกเริ่มบวม เป็นต้น
5. ซิลิโคนทะลุ
หากเกิดเหตุดังกล่าวต้องรีบไปพบแพทย์ทันที ห้ามจับหรือขยับใดๆ ทั้งสิ้น เพราะอาจจะทำให้เป็นอันตรายมากกว่าเดิม ต้องพบแพทย์เท่านั้นค่ะ
6. มีเม็ดตะปุ่มตะป่ำบนสันจมูก
เกิดจากบริเวณซิลิโคนเสริมจมูกมีหินปูน หรือมีผังพืดมาเกาะ จนทำให้ตัวแท่งซิลิโคนเกิดความขรุขระไม่เรียบเนียน จมูกจึงเกิดความนูน หรือกลายเป็นก้อนขึ้นมา
7.มีสิวหัวช้างที่ปลายจมูกกินยาแล้วไม่ดีขึ้น
สิวหัวช้าง คือ หนึ่งในอาการที่เกิดขึ้นเมื่อบริเวณผิวหนังที่เป็นเกิดอาการอักเสบและเกิดอาการติดเชื้อดังนั้น การเกิดสิวหัวช้างที่รักษายังไงก็ไม่หาย ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบและติดเชื้อที่ต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้นจนอาจทำให้ซิลิโคนเสริมจมูกเกิดอาการอักเสบ ติดเชื้อ และผิวหนังบริเวณที่เป็นบางลงได้
8. ลูบปลายจมูกแล้วรู้สึกเสียวๆ
เนื่องจากซิลิโคนดันออกมาใกล้ผิวหนังมากเกินไป ทำให้ผิวบริเวณจมูกบางขึ้น หากลูบบริเวณดังกล่าวจะรู้สึกเสียวแปลบบริเวณปลายจมูก ซึ่งเป็นอาการบ่งบอกว่าจมูกอาจทะลุได้นั่นเอง
9. มีสะเก็ดน้ำเหลืองตรงบริเวณที่ผ่าตัด
หากมีสะเก็ดน้ำเหลืองในรูจมูกไม่ยอมหายสักที บ่งบอกได้ว่าแผลผ่าตัดเริ่มอักเสบ มีอาการติดเชื้อ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน ต้องรีบไปพบหมอโดยด่วนเพื่อทำการแก้ไขโดยเร็วที่สุด
หากคุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้
✅ ไม่พอใจในผลลัพธ์ของการศัลยกรรมจมูกครั้งก่อน
✅ จมูกเกิดการอักเสบหลังการเสริม
✅ ผิวหนังปลายจมูกเริ่มบาง เสี่ยงต่อการทะลุ
✅ วัสดุเสริมมีการเคลื่อนที่
คุณอาจต้องการศัลยกรรมแก้จมูกกับ CHARN CLINIC
ทำไมต้องที่ CHARN CLINIC
1. เรามีศัลยแพทย์ที่ชำนาญ ใส่ใจทุกรายละเอียด ได้รับการรับรองโดยแพทยสภา |
2. เรามีห้องที่ใช้ในการผ่าตัด และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน |
3. เรามีเทคโนโลยี ที่ให้คุณเห็นภาพผลลัพธ์สุดท้ายได้ก่อนการเข้าทำศัลยกรรมจริง |
4. เรามีวิสัญญีแพทย์ ที่ทำให้คุณหลับระหว่างผ่าตัด |
5. เรามีเทคนิคการผ่าตัดเฉพาะตัว ที่ทำให้เนื้อเยื่อบอบช้ำน้อย แผลสวย หายไว |
6. เรามีมาตรฐานการให้บริการระดับ Exclusive ให้คุณได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุด |
PROCEDURE
ระยะเวลาที่ใช้ผ่าตัด
✅ แล้กรณีวแต่
การให้ยาชา
✅ ใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือดมยาสลบ
การค้างคืน
✅ 0-1 คืน ขึ้นอยู่กับคนไข้
ระยะพักฟื้น
✅ สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติภายใน 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
อาการบวม
✅ มีอาการบวมช้ำ 3-5 วันหลังการผ่าตัด รอยฟกช้ำหายไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ จมูกเข้าที่ประมาณ 3-6 เดือน
การติดตามผล
✅ 1 สัปดาห์ (ตัดไหม) / 1 เดือน / 3 เดือน
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
✔งดการดื่มน้ำและรับประทานอาหาร 8 ชั่วโมง ก่อนการผ่าตัด (กรณีดมยาสลบ)
✔งดทานวิตามินเสริมทุกชนิด 1 เดือน ก่อนการผ่าตัด
✔งดสูบบุหรี่ 1 เดือน ก่อนและหลังการผ่าตัด
✔งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์ ก่อนและหลังการผ่าตัด
✔ควรงดแต่งหน้าในวันที่เข้ารับการผ่าตัด หรือไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่ทำความสะอาดยาก
✔หากมีโรคประจำตัว, ใช้ยาโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนนัดทำการผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
✅นอนหมอนสูง และประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมในช่วง 1 สัปดาห์แรก
✅งดการออกกำลังกายหนัก หรือการเคลื่อนไหวที่กระทบกระเทือนแผล 6 สัปดาห์หลังการผ่าตัด งดสั่งน้ำมูก หรือขยี้บริเวณจมูก
✅หลีกเลี่ยงการแสดงออกทางสีหน้าที่มากเกินไป
✅หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด เพื่อลดอาการบวม
✅สามารถกลับไปแต่งหน้าได้ทันทีหลังถอดเฝือก แต่ควรหลีกเลี่ยงบริเวณจมูก
✅ใส่เสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการถอดเสื้อแล้วเสียดสีบริเวณจมูก